Wednesday, October 18, 2006

Atlanta GA

เรากลับจากแอตแลนตาหลายวันแล้ว มัวแต่ยุ่งๆ ก็เลยเพิ่งได้เข้ามาเขียนบล็อก เราไปแอตแลนตาเพื่อร่วมงานประชุมประจำปี 2006 ของ Neuroscience วัตถุประสงค์จริงๆ ของการเดินทางครั้งนี้ก็คือว่าได้รับมอบหมายจากครูใหญ่ให้ไปรับอาจารย์ที่มาจากเมืองไทยมา Grand Forks ด้วย จริงๆ อาจารย์เรามา Grand Forks หลายครั้งแล้ว ครูใหญ่คงอยากให้เราออกไปดูโลกภายนอกด้วยแหละ นับว่าเป็นความโชคดีของเรา เราไปถึง airport ทีแอตแลนตาสี่โมงกว่า กว่าจะรับกระเป๋าเสร็จก็ปาเข้าไปห้าโมงกว่า หลังจากนั้นก็เป็นการเริ่มต้นการผจญภัย เพราะเพื่อนที่อยู่ที่นั่นให้เรานั่งรถไฟจาก airport station ไปเจอกันที่ Linbergh station มีคนรอขึ้นรถไฟยอะมาก เพราะมันคงสะดวกและถูกดีแค่ 1.75 ดอลล่าร์ต่อเที่ยว คนที่ขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกับเราส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่จะไปประชุม Neuroscience เพราะทุกคนมีกระเป๋าเดินทางพร้อมอาวุธ คือกระบอกใส่ poster ที่จะไป present ที่งาน ยกเว้นเราที่ไม่ต้องแบกกระบอก เพราะไปประชุมอย่างเดียว (เที่ยวมากกว่า) ตอนนั่งรถไฟก็ลุ้นตลอดว่าเราจะลงถูกรึป่าว เพราะไม่ได้ยินเสียงตามสายที่คอยบอกว่าถึงไหนแล้ว สุดท้ายเราก็ลงถูก ทีนี้ก็ต้องลุ้นต่อว่าจะเจอเพื่อนรึป่าว แต่รู้ว่ายังไงเพื่อนยังรออยู่แน่ๆ เพราะก่อนขึ้นรถไฟเราโทร. บอกแล้วว่าเราอยู่ที่ไหน เดินวนหาซักพักคิดว่าถ้าไม่เจอก็เรียกแท็กซี่แล้วหละ เพราะจะโทร.หาก็ไม่เห็นตู้โทรศัพท์เลยซักตู้ แต่ในที่สุดก็หาเพื่อนเจอจนได้...เฮ้อ สงสารมันเหมือนกันมารอรับตั้งแต่ห้าโมงแล้วกว่าจะเจอกันก็หกโมงกว่า

หลังจากนั้นเพื่อนก็พาไปแวะกินอาหารไทย วันนี้ได้กินส้มตำด้วย หลังจากที่ไม่ได้กินมาเกือบ 7 เดือน กินข้าวเสร็จไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อนสักพักถึงไปโรงแรม กว่าจะหาโรงแรมเจอก็ขับรถวนอยู่หลายรอบเหมือนกัน เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก ออกจากบ้านที่ Grand Forks ตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง จนกระทั่งเกือบสี่ทุ่มถึงจะถึงโรงแรมที่พัก แต่ไม่เหนื่อยหรอก เพราะได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสี่ปี

เช้าวันเสาร์เพื่อนกับแฟนมันมารับไปเที่ยว นั่งรถไฟไปลงที่ Five point station แวะกินข้าวเที่ยงที่ Underground Atlanta ที่นี่จะมีร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกทั่วไป แต่เรายังไม่ได้ shopping เพราะกะว่าจะรอเพื่อนที่มาจากเมืองไทยก่อนค่อย shop พร้อมกัน แต่ทำไปทำมาก็อด เพราะเพื่อนไม่สามารถปลีกตัวมาจากอาจารย์และงานประชุมได้ เลยอดหมู่ ใครจะเหมือนเราหละ อิสระเสรี เหนืออื่นใด ขาดแต่ไม่มีปีกบินแค่นั้นเอง กินข้าวเสร็จก็เข้าไปเดินเล่นที่ World of Coca Cola ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ถ้าจะว่าไปแล้วมันก็คือพิพิธภัณฑ์ของโคคาโคลาหรือโค้กนั่นแหละ มีประวัติตั้งแต่ก่อตั้งจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เราจำประวัติไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอก จำได้ว่าคนที่ก่อตั้งคนแรกเลยเป็นเภสัชกร ไม่น่าเชื่อว่าเป็นกิจการที่ขยายไปทั่วโลก ใครๆ ก็เป็นสาวกน้ำดื่มสีดำ ยกเว้นเรา อิ อิ...ดื่มบ้างแต่ไม่บ่อย จากนั้นก็เดินทะลุ CNN ไปที่ Georgia World Congress ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประชุม ตอนเย็นก็นั่ง Shuttle bus ของงานประชุมกลับโรงแรม Happy Happy.....

World of Coca Cola

สายๆ วันอาทิตย์ เพื่อน แฟนเพื่อน น้าของเพื่อน และเพื่อนของน้ามารับไป Georgia outlets ซึ่งต้องขับรถออกนอกตัวเมืองใช้เวลาเกือบชั่วโมง จริงๆ trip นี้เพื่อนเราตั้งใจว่าจะพาอาจารย์และเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาจากเมืองไทยอีกห้าคน ไป shopping เลยขอให้น้าขับรถไปอีกคัน แต่ด้วยความผิดพลาดของใครหรืออะไรก็ไม่รู้สรุปว่าอาจารย์และเพื่อนอีกสองคนตกรถ คือว่าติดต่อกันไม่ได้และไม่สามารถรอได้ เพราะสายมากแล้ว หลังจาก shopping กันจุใจโดยเฉพาะพี่หน่อง เพื่อนที่แสนดีก็พาไปเที่ยวต่อที่ stone mountain park แต่ไปกันแค่สี่คน คือ พี่หน่อง แฟนพี่หน่อง เราและเพื่อนเรา ส่วนที่เหลือติดธุระต้องแยกกลับไปก่อน

Georgia outlets

Stone mountain park ก็จะมีหน้าผาหินแกะสลักนักรบทั้งหมดสามคน (ไม่รู้คนอื่นเค้าเรียกเหมือนเราป่าว แต่เราขอเรียกนักรบละกัน) มี cable car จากข้างล่างขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ แอตแลนตาแต่เราขอชมบรรยากาศแบบใช้แรงงานและความพยายามคือเดินขึ้นไป เพราะมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ากำลังวังชายังมีเหลือเกินร้อย อีกอย่างระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากแค่ 1.4 ไมล์ ก็สองกิโลกว่าๆ เด็กๆ จิ๊บ ๆ มีผู้คนเดินขึ้นลงตลอด อีกอย่างจะได้เดินกินบรรยากาศด้วย ว่าเข้าไปนั่น แล้วเป็นไงหละ ตัวเราเองไม่เท่าไหร่หรอกเหนื่อยพอประมาณ แต่พี่หน่องนี่สิ ลิ้นห้อยเลย จะถอดใจอยู่หลายรอบ ก็อายุปูนนั้นแล้วนี่เนอะ แต่สุดท้ายทุกคนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา ฉีกยิ้มถ่ายรูปต่อจนได้ กลับจาก Stone mountain ก็ไปกินข้าวต่อที่ร้านอาหารไทยที่แฟนเพื่อนทำงานอยู่ อิ่มอร่อยไปตามๆ กัน

Stone Mountain Park is domonated by the giant sculture of Robert E. Lee, Jefferson Davis and Stonewall Jackson on horseback, carved into the huge granite outcropping

จุดเริ่มต้นของการใช้แรง....

ระหว่างทาง...ใบไม้สีสวยดี

ถ่ายจากยอดเขา

สภาพพี่หน่อง ตอนนี้ยังเดินไม่ถึงครึ่งทางเลยอ่ะ

ส่วนเรายังไงก็สู้ตายขอให้ได้เที่ยวเหอะ

การผจญภัยยังไม่สิ้นสุด คืนสุดท้ายอาจารย์กับเพื่อนไม่มีที่พัก เพื่อนก็เลยชวนเราไปพักที่บ้าน อย่างเคยมันให้เรานั่งรถไฟไปหามันที่ Georgia state university ประมาณบ่ายสามถึงบ่ายสามครึ่ง รายละเอียดก็ไม่บอก เราก็ไม่ถาม พอกัน รู้แต่ว่ามันจะรออยู่ที่ biomechanics lab ตอนเช้าเราก็ไปงานประชุมที่ GAWC กับพวกอาจารย์และเพื่อนๆ เกือบๆ เที่ยงก็ขอแยกตัวไปหาเพื่อน ด้วยความที่ยังไม่ได้เที่ยวแถวนั้นเลย ก็เลยเดินเล่น ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพราะยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัด หลังจากถ่ายรูป และสำรวจว่าสถานีรถไฟอยู่ตรงไหนเสร็จแล้ว ก็แวะเข้าไปใน CNN เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ขึ้นไปดูข้างบนเพราะมัวแต่รอว่าจะไปพร้อมเพื่อนๆ เลยอดเลย

CNN...ได้แค่ถ่ายรูป ไม่ได้ขึ้นไปดู studio

ซื้อของฝากเสร็จเรียบร้อยก็ออกไปขึ้นรถไฟ ไปลงที่ Georgia state station ดันลงผิดฝั่ง ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็เลยต้องเดินผ่านเข้าไปใน goverment เพราะถ้าจะออกไปเดินอีกฝั่งต้องจ่ายค่ารถไฟใหม่เพราะรูดบัตรออกไปแล้ว เห็นใครก็ถามว่า GSU อยู่ตรงไหนเพื่อไม่ให้เสียเวลา จริงๆ ยังมีเวลาอีกเยอะ เพราะยังไม่บ่ายสามเลย แล้วยังไงหละกว่าจะหาห้องแลบเพื่อนเจอเกือบบ่ายสามครึ่ง ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าไปมุดอยู่ตรงไหน โทรศัพท์ก็ไม่ติดเพราะเพื่อนบอกแล้วว่าที่ห้องแลบมันไม่มีสัญญาณ เหมือนห้องแลบเราเปี๊ยบ ทำกรรมมาแต่ชาติไหนเนี่ยถึงได้อยู่แต่ใต้ถุนตึก สุดท้ายเจอตึกแล้วก็หาห้องไม่เจออีก แต่มีหนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม (เราเช็ดน้ำลายแทบไม่ทัน) พาไปส่งถึงห้อง เพื่อนเพิ่งบอกทีหลังว่าเป็นนักศึกษา PhD Physiology รู้งี้ตามเพื่อนไปที่ห้องแลบนานแล้ว เพราะเพื่อนชวนเราไปที่ห้องแลบก่อนหน้านี้แล้วแต่เราต้องไปงานประชุมและทำตัวเป็นลูกศิษย์ที่ดีอยู่ หลังจากสำรวจห้องแลบเพื่อนเสร็จก็กลับบ้านกัน เพื่อนที่แสนดีก็กันเองมากแวะร้านตัดผมก่อน ให้เรานั่งรอมันตัดผมอีก แต่ก็ไม่นาน หลังจากนั้นก็ไปซื้อกับข้าว เราซื้อปลากรอบกับพริกขี้หนูกลับบ้านนอก เฮ้ย Grand Forks ด้วย จริงๆ พริกขี้หนูที่ Grand Forks มีแต่เราขี้เกียจนั่งรถเข้าไปซื้ออีก เย็นนี้เพื่อนทำกับข้าวให้กินอิ่มอร่อย

Georgia state capital

Georgia State University

เช้าวันพุธเพื่อนแวะไปส่งที่โรงแรม วันนี้วันเป็นสุดท้ายของการผจญภัยที่แอตแลนตาแล้ว เรายังเที่ยวไม่ทั่วแอตแลนตาเลย ทั้งๆ ที่ที่เที่ยวก็มีไม่เยอะมาก ส่วนงานประชุมไม่ต้องพูดถึงไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่หรอก ได้ของแจกตาม booth ซะมากกว่า บอกแล้วว่าครูใหญ่ใจดีให้มาเที่ยว รถที่โรงแรมไปส่งเรากับอาจารย์ที่ airport ตอนบ่ายโมงครึ่ง เราต้องบินกลับตอน 5.22 pm หลังจาก check in เรียบร้อย ก็ไปต่อแถวอันยาวเหยียดอย่างไม่น่าเชื่อที่ security point (ไม่อยากบอกเลยว่าขากลับกระเป๋าน้ำหนักเกิน ต้องรื้อของใส่ถุงหิ้วขึ้นเครื่อง แต่เราก็เตรียมถุงเผื่อไว้แล้วหละ รอบคอบซะ) กว่าจะผ่านเข้าไปก็รอเกือบๆ ชั่วโมง เท่านั้นยังไม่พอ พอถึง gate ที่จะขึ้นเครื่อง เครื่อง delay อีก จาก 5.22 เป็น 6 โมงกว่า เฮ้อ...เหนื่อย ก็เลยหาอาหารเย็นแถวนั้นกินประทังชีวิต พอเครื่องมาถึง Minneapolis คิดว่าไม่มีไรแล้ว มีเวลาได้นั่งพักพอประมาณก่อนจะขึ้นเครื่องต่อ ที่ไหนได้พอจะดูว่าไปขึ้นเครื่องต่อที่ไหน เที่ยวบินของเราถูกยกเลิก ยุ่งละซิ พอไปที่ gate เจ้าหน้าที่ไม่ว่ากระไรเลย เปลี่ยนตั๋วให้เป็น 10.18 จากเดิม 9.00 pm เดือดร้อนละซิ นัดโจแอนให้มารับที่ GF airport สี่ทุ่ม ก็ต้องโทรศัพท์หาโจแอนอีก กว่าจะโทรเจอเล่นเอาเหนื่อย ไม่ใช่ไรหรอกถ้าโทรไม่เจอก็เกรงใจเพราะโจแอนต้องมานั่งรอนานมาก โทรเจอก็เกรงใจเพราะมันดึกมากกว่าเราจะถึง Grand Forks แต่ทำไงได้ นี่ขนาดเล่ายังเหนื่อยเลย ของจริงนี่เหนื่อยมากๆ แต่ก็สนุก แถมเที่ยวฟรีอีก

0 Comments:

Post a Comment

<< Home